fbpx

การลดค่าไฟห้างสรรพสินค้า สร้างประโยชน์ต่อธุรกิจและประเทศ

การลดค่าไฟห้างสรรพสินค้ามีประโยชน์หลายด้าน และทำได้ด้วยการใช้ระบบการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์
การลดค่าไฟห้างสรรพสินค้าช่วยลดการใช้พลังงานในระดับประเทศ

ห้างสรรพสินค้า เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและต้นทุนธุรกิจจำนวนมากไปกับค่าไฟฟ้า ซึ่งนอกจากต้องใช้พลังงานปริมาณมากในแต่ละวันแล้วยังต้องจ่ายค่าไฟแพงอีกด้วย ทำให้ธุรกิจห้างสรรพสินค้าไม่ควรละเลยการหาแนวทางเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้าเด็ดขาด โดยในบทความนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับการใช้ไฟฟ้าของห้างสรรพสินค้าให้มากขึ้น พร้อมวิธีลดค่าไฟห้างสรรพสินค้า และประโยชน์จากการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าของห้างสรรพสินค้าด้วย

การใช้ไฟฟ้าของห้างสรรพสินค้า

ก่อนที่จะไปรู้จักกับวิธีลดค่าไฟสำหรับห้างสรรพสินค้า เราควรทำความเข้าใจถึงลักษณะการใช้ไฟฟ้าของห้างสรรพสินค้าเสียก่อน

ธุรกิจห้างสรรพสินค้า เป็นธุรกิจที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเยอะมาก โดยสาเหตุหลักมาจากการใช้เครื่องปรับอากาศและไฟส่องสว่าง เพื่อสร้างบรรยากาศและอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าผู้มาใช้บริการห้างสรรพสินค้าทุกคน และเนื่องจากห้างสรรพสินค้านั้นมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ประกอบกับมีผู้คนเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทำให้ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ต้องสร้างบรรยากาศภายในห้างให้เย็นสบายอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่

ดังนั้น เครื่องปรับอากาศจึงใช้พลังงานไฟฟ้ามากเป็นอันดับต้น ๆ ของการใช้ไฟทั้งหมดในห้างสรรพสินค้า อีกทั้งยังต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น การใช้ลิฟต์และบันไดเลื่อน การใช้ระบบไฟฟ้าสำหรับร้านค้าต่าง ๆ เป็นต้น

สรุปสิ่งที่ทำให้ค่าไฟห้างสรรพสินค้าสูง

  1. ห้างสรรพสินค้าจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าเยอะ เนื่องจากมีเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายประเภทและจำนวนมาก
  2. ห้างสรรพสินค้าจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าเป็นเวลานานติดต่อกัน ในแต่ละวันตั้งแต่เปิดให้บริการ โดยส่วนมากจะต้องเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างน้อย 10 ชั่วโมงติดต่อกัน
  3. อัตราค่าไฟฟ้าของห้างสรรพสินค้ามีราคาสูงกว่าอัตราค่าไฟฟ้าของครัวเรือน เนื่องจากห้างสรรพสินค้าเป็นประเภทธุรกิจขนาดใหญ่
  4. สภาพอากาศของประเทศไทยร้อนจัด ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักมากขึ้น ทำให้การใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
  5. หากเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้างสรรพสินค้ามีประสิทธิภาพต่ำ ห้างจะต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานหนักกว่าปกติ

แนวทางการลดค่าไฟห้างสรรพสินค้า

ระบบการจัดการพลังงานช่วยลดค่าไฟห้างสรรพสินค้าได้

ใช้ระบบการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

หนึ่งในวิธีที่สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายอาคารด้านพลังงานไฟฟ้าของห้างสรรพสินค้าได้ก็คือ การนำโซลูชันระบบจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพจาก Green Yellow เข้ามาใช้ ซึ่งระบบนี้จะช่วยปรับแต่งระบบที่มีอยู่ให้สามารถใช้ไฟฟ้าได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด ด้วยการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ให้เป็นอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานน้อยลง ลดค่าไฟได้ แต่ยังให้ประสิทธิภาพการทำงานดังเดิม

การเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์

นอกจากการใช้ระบบจัดการพลังงานแล้ว อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดค่าไฟของห้างสรรพสินค้าได้ก็คือการเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากระบบโซลาร์เซลล์แทนนั่นเอง เพราะพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากโซลาร์เซลล์นั้นจะมีต้นทุนที่ถูกกว่าการใช้ไฟฟ้าจากหน่วยงานการไฟฟ้าในพื้นที่ โดยห้างสรรพสินค้าอาจเลือกใช้บริการ Solar PPA จาก Green Yellow เพื่อทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ผลิตจากแผงโซลาร์เซลล์โดยห้างสรรพสินค้าไม่ต้องลงทุนติดตั้งอุปกรณ์โซลาร์เซลล์เลย ทั้งยังมีบริการดูแลและบำรุงรักษาให้ตลอดอายุสัญญาอีกด้วย และจ่ายเรตค่าไฟที่ถูกกว่าหน่วยงานการไฟฟ้าในพื้นที่

ข้อดีของการใช้บริการระบบการจัดการพลังงาน และระบบโซลาร์เซลล์ประหยัดค่าไฟ

  1. ประหยัดค่าใช้จ่าย และลดต้นทุนธุรกิจ
    การใช้บริการระบบจัดการพลังงานและระบบโซลาร์เซลล์ช่วยประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนธุรกิจในภาพรวม โดยที่ยังสามารถใช้พลังงานและอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิม หรือดีกว่าเดิม
  2. ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม
    การนำระบบจัดการพลังงานและระบบโซลาร์เซลล์ประหยัดค่าไฟมาใช้ จะช่วยให้ห้างสรรพสินค้าลดการใช้พลังงานจากโครงข่ายการไฟฟ้า และลดการใช้กระแสไฟฟ้าที่ผลิตจากทรัพยากรธรรมชาติซึ่งกำลังจะหมดไปและไม่สามารถสร้างขึ้นมาทดแทนได้ ได้แก่เชื้อเพลิงฟอสซิล อย่างน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ทำให้ห้างมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  3. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีและทันสมัยให้กับองค์กร
    การลดการใช้พลังงานฟอสซิลในการผลิตกระแสไฟฟ้า และเลือกใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดอย่างพลังงานแสงอาทิตย์ จะสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและทันสมัยให้กับองค์กรได้
  4. เพิ่มความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ
    การเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ ทำให้องค์กรได้เป็นส่วนหนึ่งในการลดการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากน้ำมัน ถ่านหิน หรือก๊าซธรรมชาติต่าง ๆ ที่มีต้นทุนสูง จึงช่วยเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศได้
  5. เพิ่มโอกาสในการพัฒนาธุรกิจในด้านต่าง ๆ
    บริษัทสามารถเพิ่มโอกาสในการพัฒนาธุรกิจในด้านต่าง ๆ ได้เมื่อลดต้นทุนด้านไฟฟ้า เนื่องจากจะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ ทำให้มีงบประมาณในการพัฒนาห้างสรรพสินค้า และการให้บริการมากขึ้นสนใจลดค่าไฟห้างสรรพสินค้า เลือกใช้บริการระบบการจัดการพลังงาน และระบบโซลาร์เซลล์ประหยัดค่าไฟโดยที่ไม่ต้องลงทุน-ดูแลระบบพลังงานเองจาก Green Yellow เพราะเรามีประสบการณ์ให้บริการในหลากหลายธุรกิจและองค์กรระดับประเทศ หากสนใจสามารถติดต่อเพื่อรับคำปรึกษา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-079-8081 หรืออีเมล gr*********@*********ow.com

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. Shopping Mall Energy Management: Saving Energy Saves Money. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม 2566 จาก
    https://www.utilivisor.com/news/energy-metering-services-shopping-centers.html
  2. Why Environmental Sustainability Will Matter To Malls In 2021. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม 2566 จาก
    https://www.coniq.com/resources/why-environmental-sustainability-will-matter-to-malls-in-2021/
ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึงหลักล้านง่ายๆ เพียงติดต่อเราวันนี้ ติดต่อเรา

บทความโดย

แชร์บทความนี้
Facebook
Twitter
LinkedIn
X
Pinterest
WhatsApp

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

นักธุรกิจถือไอคอนจำลองคาร์บอนเครดิต

คาร์บอนเครดิต กุญแจสำคัญสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดด้วยโซลาร์เซลล์

ท่ามกลางความตื่นตัวเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญขององค์กรและธุรกิจทั่วโลก ซึ่ง “คาร์บอนเครดิต” เป็นหนึ่งในกลไกที่น่าสนใจเพื่อขับเคลื่อนพลวัตทางเศรษฐกิจและสังคมให้เข้าใกล้เป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผนวกเข้ากับการติดตั้ง “โซลาร์เซลล์” แหล่งพลังงานสะอาดที่พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจอย่างยั่งยืน เข้าใจคาร์บอนเครดิตและโอกาสทางธุรกิจ คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) คือ หน่วยวัดการลดหรือการหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (จำนวนคาร์บอนฟุตพรินต์) ในแต่ละปี โดย 1 คาร์บอนเครดิต เท่ากับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1 ตัน (tCO2e) ซึ่งสามารถทำได้จากหลายมาตรการ เช่น

อ่านเพิ่มเติม
Climate Tech เทคโนโลยีด้านภูมิอากาศ สู่การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

รับมือกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ด้วย Climate Tech

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นหนึ่งในความท้าทายที่โลกกำลังเผชิญ ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อเศรษฐกิจ สุขภาพ และคุณภาพชีวิตของประชากรทั่วโลก ปัจจุบันจึงมีแนวคิดและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองต่อปัญหานี้ โดย Climate Tech กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง Climate Tech สร้างโอกาสในการพัฒนาที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม Climate Tech หรือ Climate Technology คือเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การพัฒนาพลังงานสะอาด สู่การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน นับเป็นส่วนสำคัญของการแก้ไขปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อทั้งสิ่งแวดล้อม

อ่านเพิ่มเติม
ก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมาจากโรงงาน (คาร์บอนฟุตพรินต์)

คาร์บอนฟุตพรินต์ : ความสำคัญและวิธีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ปัจจุบัน “คาร์บอนฟุตพรินต์” (Carbon Footprint) เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่องค์กรและธุรกิจทั่วโลกใช้ประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากรายงานของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน พบว่าในปี 2566 ประเทศไทยมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงถึง 243.6 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี ซึ่ง 71% มาจากภาคพลังงานและการขนส่ง ดังนั้น การเข้าใจความหมาย ประเภท วิธีการคำนวณ และแนวทางการลดคาร์บอนฟุตพรินต์อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้องค์กรของคุณลดการสร้างคาร์บอนฟุตพรินต์ได้อย่างเหมาะสม คาร์บอนฟุตพรินต์คืออะไร ? คาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon

อ่านเพิ่มเติม

Free consultation