fbpx

โซลาร์เซลล์โรงงาน : เลือกระบบไหน ต่างกันอย่างไร ?

สนใจติดตั้งโซลาร์เซลล์ แต่ไม่รู้ว่าระบบ On Grid กับ Off Grid มีความต่างกันอย่างไร ควรเลือกแบบไหนดี ? มาศึกษากันได้ในบทความนี้เลย
ผู้เชี่ยวชาญช่วยเลือกว่าระบบ On Grid กับ Off Grid ต่างกันอย่างไร

หากลองมองดูบ้านหรือบริษัทในปัจจุบัน จะพบว่ามีจำนวนไม่น้อยที่เลือกติดโซลาร์เซลล์เพื่อใช้พลังงานแสงอาทิตย ซึ่งเป็นทางเลือกพลังงานสะอาดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยข้อดีหลายประการ โดยเฉพาะการประหยัดค่าไฟฟ้า อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่อย่างไรก็ตามยังมีหนึ่งคำถามสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจติดตั้งโซลาร์เซลล์ คือการเลือกระหว่างระบบ On Grid กับ Off Grid มีความต่างกันอย่างไร ควรเลือกแบบไหน บทความนี้จึงจะมาไขข้อสงสัยเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกได้อย่างเหมาะสม !

ระบบ On Grid

เป็นระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าหลักของการไฟฟ้า เหมาะสำหรับบ้าน อาคาร หรือสถานประกอบการที่ต้องการประหยัดค่าไฟฟ้า

การทำงาน

โซลาร์เซลล์ระบบ On Grid ทำงานโดยเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาร์เซลล์เป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ผ่านอินเวอร์เตอร์ จากนั้นจึงแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) และจะทำการส่งไฟเข้าไปในแต่ละสถานที่โดยตรงเพื่อให้สามารถใช้งานไฟฟ้าได้ตามปกติ ซึ่งหากเมื่อระบบโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอก็สามารถดึงไฟฟ้าจากระบบไฟฟ้าหลักมาใช้ได้ จะทำการส่งไฟเข้าไปยังพื้นที่ หรือในแต่ละสถานที่โดยตรง

ข้อดี

  • ติดตั้งง่ายโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีอุปกรณ์หลักเพียงแผงโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์ และมิเตอร์ไฟฟ้า
  • ประหยัดค่าไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องลงทุนก้อนใหญ่ เนื่องจาก GreenYellow ให้บริการรับติดตั้งพร้อมลงทุนให้ และดูแลระบบในระยะยาว

ข้อควรพิจารณา

  • พื้นที่ติดตั้ง จำเป็นต้องมีพื้นที่เพียงพอสำหรับติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งบริษัทรับติดตั้งและดูแลที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์จะสามารถให้คำปรึกษาและช่วยตรวจสอบพื้นที่เพื่อพิจารณาการติดตั้งที่เหมาะสมที่สุดได้
  • งบประมาณ ตามปกติแล้วการติดตั้งโซลาร์เซลล์จำเป็นต้องมีเงินลงทุนเริ่มต้น และค่าดูแลระบบ แต่ GreenYellow ให้บริการติดตั้ง-ดูแลโดยที่ลูกค้าไม่ต้องลงทุนเอง
  • ประสิทธิภาพของระบบ  ขึ้นอยู่กับประเภทของแผงโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์ และการออกแบบระบบ
  • กฎระเบียบและข้อกำหนด ที่ต้องศึกษาข้อมูลให้เป็นไปตามกำหนดของการไฟฟ้า
  • การบำรุงรักษา ต้องดูแลรักษาและทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์เป็นประจำ เนื่องจากสมรรถภาพในการทำงานของระบบอาจเสื่อมถอยตามกาลเวลา จึงจำเป็นต้องคอยบำรุงรักษาอยู่เป็นประจำ

ระบบ Off Grid

เป็นระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ไม่เชื่อมต่อกับระบบโครงข่ายของการไฟฟ้า เหมาะสำหรับพื้นที่ที่เข้าถึงระบบไฟฟ้าหลักยาก หรือต้องการสำรองไฟฟ้าฉุกเฉิน โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบโครงข่ายของการไฟฟ้า

การทำงาน

ระบบ Off Grid ทำงานโดยเริ่มจากการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาร์เซลล์เป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) และเก็บไว้ในแบตเตอรี่ โดยมีตัวควบคุมการชาร์จทำหน้าที่ควบคุมการไหลของไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ไปยังแบตเตอรี่ เพื่อป้องกันแบตเตอรี่ชาร์จไฟเกินหรือไฟต่ำ 

ข้อดี

  • ใช้งานได้ทุกที่ โดยเฉพาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้า
  • สำรองไฟฟ้าได้ ทำให้สามารถใช้งานได้แม้ไฟเกิดดับ

ข้อควรพิจารณา

  • ต้นทุนเริ่มต้น เนื่องจากมีราคาค่อนข้างสูงกว่าระบบไฟฟ้าทั่วไป
  • พื้นที่ติดตั้ง ต้องมีพื้นที่เพียงพอสำหรับติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์
  • การบำรุงรักษา จำเป็นต้องดูแลรักษาแบตเตอรี่และอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นประจำ เพื่อป้องกันปัญหาระบบไฟฟ้าไม่เสถียร
ผู้เชี่ยวชาญปรึกษากันว่าติดโซลาร์เซลล์โรงงานแบบไหนดี

สรุป ! โซลาร์เซลล์ระบบ On Grid กับ Off Grid ต่างกันอย่างไร ?

โซลาร์เซลล์ On Grid Off Grid
การทำงาน ผลิตไฟฟ้าส่งเข้าระบบไฟฟ้าหลัก ผลิตไฟฟ้าเก็บไว้ในแบตเตอรี่
ข้อดี ประหยัดค่าไฟฟ้า ติดตั้งง่าย ไม่ต้องบำรุงรักษาแบตเตอรี่  ใช้งานได้ทุกที่ สำรองไฟฟ้าได้ ไม่ต้องพึ่งพาการไฟฟ้า
ข้อควรพิจารณา ศึกษากฎระเบียบรวมถึงข้อกำหนดอย่างถี่ถ้วน ต้นทุนสูง ระบบไฟฟ้าอาจจะไม่เสถียร

รู้จักระบบ On Grid แบบมี  Battery ทางออกสำหรับคนเลือกไม่ถูก !

ระบบ On Grid แบบมีแบตเตอรี่ ทำงานเหมือนระบบ On Grid ทั่วไป แต่มีการเพิ่มแบตเตอรี่สำรองไว้เก็บไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตได้ในช่วงกลางวัน เมื่อไฟฟ้าดับหรือผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอ ระบบจะดึงไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มาใช้ ช่วยให้มีไฟฟ้าใช้งานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนนี้จะมีความคล้ายคลึงกับระบบ Off Grid ที่ไม่ต้องพึ่งพาระบบของการไฟฟ้า ระบบ On Grid แบบมีแบตเตอรี่จึงเป็นเหมือนตัวเลือกที่ผสมผสานระหว่างโซลาร์เซลล์ระบบ On Grid และแบบ Off Grid 

ถึงแม้จะได้รู้แล้วว่าโซลาร์เซลล์ระบบ On Grid กับ Off Grid ต่างกันอย่างไร แต่หากยังเลือกไม่ถูก สามารถปรึกษา GreenYellow ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ Solar PPA พร้อมติดตั้งโซลาร์เซลล์โรงงาน โดยมีตัวเลือกทั้งระบบ On Grid และแบบมีแบตเตอรี่ โดยไม่ต้องลงทุนเอง ! ยินดีให้บริการตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจสอบพื้นที่เพื่อออกแบบโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด พร้อมช่วยบำรุงรักษาตลอดระยะเวลาสัญญา สนใจสามารถติดต่อเพื่อรับคำปรึกษา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-079-8081 หรืออีเมล gr*********@*********ow.com 

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. On-Grid Solar Systems vs. Off-Grid Solar Systems. สืบค้นเมื่อ 10 พฤษภาคม 2567 จาก https://www.linkedin.com/pulse/on-grid-solar-systems-vs-off-grid
ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึงหลักล้านง่ายๆ เพียงติดต่อเราวันนี้ ติดต่อเรา

บทความโดย

แชร์บทความนี้
Facebook
Twitter
LinkedIn
X
Pinterest
WhatsApp

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

นักธุรกิจถือไอคอนจำลองคาร์บอนเครดิต

คาร์บอนเครดิต กุญแจสำคัญสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดด้วยโซลาร์เซลล์

ท่ามกลางความตื่นตัวเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญขององค์กรและธุรกิจทั่วโลก ซึ่ง “คาร์บอนเครดิต” เป็นหนึ่งในกลไกที่น่าสนใจเพื่อขับเคลื่อนพลวัตทางเศรษฐกิจและสังคมให้เข้าใกล้เป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผนวกเข้ากับการติดตั้ง “โซลาร์เซลล์” แหล่งพลังงานสะอาดที่พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจอย่างยั่งยืน เข้าใจคาร์บอนเครดิตและโอกาสทางธุรกิจ คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) คือ หน่วยวัดการลดหรือการหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (จำนวนคาร์บอนฟุตพรินต์) ในแต่ละปี โดย 1 คาร์บอนเครดิต เท่ากับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1 ตัน (tCO2e) ซึ่งสามารถทำได้จากหลายมาตรการ เช่น

อ่านเพิ่มเติม
Climate Tech เทคโนโลยีด้านภูมิอากาศ สู่การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

รับมือกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ด้วย Climate Tech

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นหนึ่งในความท้าทายที่โลกกำลังเผชิญ ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อเศรษฐกิจ สุขภาพ และคุณภาพชีวิตของประชากรทั่วโลก ปัจจุบันจึงมีแนวคิดและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองต่อปัญหานี้ โดย Climate Tech กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง Climate Tech สร้างโอกาสในการพัฒนาที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม Climate Tech หรือ Climate Technology คือเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การพัฒนาพลังงานสะอาด สู่การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน นับเป็นส่วนสำคัญของการแก้ไขปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อทั้งสิ่งแวดล้อม

อ่านเพิ่มเติม
ก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมาจากโรงงาน (คาร์บอนฟุตพรินต์)

คาร์บอนฟุตพรินต์ : ความสำคัญและวิธีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ปัจจุบัน “คาร์บอนฟุตพรินต์” (Carbon Footprint) เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่องค์กรและธุรกิจทั่วโลกใช้ประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากรายงานของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน พบว่าในปี 2566 ประเทศไทยมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงถึง 243.6 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี ซึ่ง 71% มาจากภาคพลังงานและการขนส่ง ดังนั้น การเข้าใจความหมาย ประเภท วิธีการคำนวณ และแนวทางการลดคาร์บอนฟุตพรินต์อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้องค์กรของคุณลดการสร้างคาร์บอนฟุตพรินต์ได้อย่างเหมาะสม คาร์บอนฟุตพรินต์คืออะไร ? คาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon

อ่านเพิ่มเติม

Free consultation