fbpx

ศึกษาปัจจัยเพิ่มประสิทธิภาพของโซลาร์เซลล์ให้ใช้งานคุ้มค่า !

ทำความเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของโซลาร์เซลล์ เพื่อให้สามารถตัดสินใจเลือกติดตั้งได้อย่างคุ้มค่า ตรงกับความต้องการมากที่สุด
ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของโซลาร์เซลล์

ในปัจจุบัน พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยโซลาร์เซลล์ หรือเซลล์แสงอาทิตย์ เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยในการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของโซลาร์เซลล์นั้นอาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย การทำความเข้าใจถึงปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้สามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของโซลาร์เซลล์

ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของพื้นที่ที่ต้องการติดตั้ง

ก่อนที่จะติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ สิ่งแรกที่ต้องพิจารณา คือ การประเมินปริมาณไฟฟ้าที่ต้องการใช้ในพื้นที่ที่จะติดตั้ง โดยสำรวจพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า เพื่อออกแบบระบบโซลาร์เซลล์ได้ตรงตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น โรงงาน ห้าง หรือโรงแรม การออกแบบระบบที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ประสิทธิภาพของโซลาร์เซลล์ที่คุ้มค่าต่อการใช้งานมากที่สุด โดยอาจเริ่มจากการตรวจสอบบิลค่าไฟฟ้าย้อนหลัง 12 เดือน เพื่อดูพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยต่อเดือน แล้วนำไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโซลาร์เซลล์ เพื่อให้คำแนะนำในการเลือกขนาดและจำนวนแผงโซลาร์เซลล์ที่เหมาะสม

ประเภทของแผงโซลาร์เซลล์

ประเภทของแผงโซลาร์เซลล์มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่

  • แบบผลึกเดี่ยว (Monocrystalline) 

เป็นแผงโซลาร์เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากผลิตจากซิลิคอนเกรดดีที่บริสุทธิ์ที่สุด โดยแต่ละเซลล์มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมมุมตัดทั้ง 4 มุมและมีสีดำสนิท ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและให้ความรู้สึกทันสมัย

  • แบบผลึกรวม (Polycrystalline) 

เป็นแผงโซลาร์เซลล์ที่มีขั้นตอนการผลิตง่าย เพียงเทผลึกซิลิคอนที่หลอมเหลวลงในแม่พิมพ์สี่เหลี่ยม มักจะมีสีน้ำเงินอมฟ้า หรือม่วง โดยจะยิ่งมีประสิทธิภาพสูงในที่ที่มีอุณหภูมิสูง อีกทั้งยังมีราคาไม่แพงมาก 

  • แบบฟิล์มบาง (Thin-film) 

เป็นแผงโซลาร์เซลล์ที่นำวัสดุที่สามารถแปลงแสงเป็นไฟฟ้ามาเคลือบเป็นชั้นบาง ๆ บนแผ่นรองรับ ทำให้แผงมีน้ำหนักเบาและมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่ไม่เรียบเสมอกัน เช่น หลังคาโค้ง หรือแม้แต่บนตัวอาคาร แต่มีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับแผงโซลาร์เซลล์ประเภทอื่น

การเลือกแผงโซลาร์เซลล์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น งบประมาณ พื้นที่ติดตั้ง ความต้องการใช้ไฟฟ้า และอายุการใช้งานที่ต้องการ จึงควรปรึกษาและขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ประเภทของแผงโซลาร์เซลล์ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

มุมและทิศติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่เหมาะสม

มุมและทิศทางในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์

การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในทิศทางที่เหมาะสม จะช่วยให้แผงได้รับแสงแดดมากที่สุด ส่งผลให้ผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น โดยทิศติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่ดีที่สุด คือทิศใต้ที่ได้รับแสงสว่างตลอดวัน เพราะตามธรรมชาติที่มีทั้งปัจจัยโลกหมุนรอบตัวเอง แกนโลกที่เอียง 23.5 องศาตามระนาบวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำให้เราเห็นว่าพระอาทิตย์จะเคลื่อนที่จากทิศตะวันออกไปยังตะวันตกโดยค่อนไปทางทิศใต้ จึงควรหันแผงเข้าหาทิศทางนี้โดยทำมุมประมาณ 15 องศากับพื้นราบ เพื่อให้แสงอาทิตย์กระทบตั้งฉากกับแผงโซลาร์เซลล์ในช่วงเวลากลางวันได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการหันแผงไปทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่พระอาทิตย์ไม่ได้เคลื่อนตัวเบี่ยงไปทางทิศนั้นมากนัก รวมถึงควรเลือกพื้นที่ติดตั้งที่โล่ง ปราศจากเงาของต้นไม้ หรือสิ่งก่อสร้างที่อาจบังแสงอาทิตย์ ทำให้เกิดจุดร้อน (Hot Spot) ซึ่งเป็นบริเวณที่เซลล์แสงอาทิตย์ส่วนหนึ่งได้รับแสงแดดมากกว่าส่วนอื่นและทำให้เกิดความร้อนสูงขึ้นอย่างผิดปกติ จนส่งผลให้ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าของแผงโซลาร์เซลล์ลดลงและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

การบำรุงรักษาและความสะอาด

ฝุ่นละออง สิ่งสกปรก หรือคราบที่เกาะอยู่บนแผงโซลาร์เซลล์ ล้วนเป็นอุปสรรคต่อประสิทธิภาพของโซลาร์เซลล์ ซึ่งอาจทำให้กำลังในการผลิตไฟฟ้าลดลง การบำรุงรักษาแผงโซลาร์เซลล์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของระบบ ควรทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์อย่างสม่ำเสมอ และตรวจสอบการทำงานของระบบเป็นประจำ

อุปกรณ์ควบคุม

เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียรของระบบเซลล์แสงอาทิตย์ โดยอุปกรณ์หลักที่มีผลต่อประสิทธิภาพ เช่น 

  • อินเวอร์เตอร์ (Inverter) ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรงที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์เซลล์เป็นไฟฟ้ากระแสสลับที่สามารถใช้งานได้ในอาคาร การเลือกอินเวอร์เตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงจะช่วยลดการสูญเสียพลังงานในกระบวนการแปลงกระแสไฟฟ้า
  • MPPT Tracker (Maximum Power Point Tracker) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ระบบสามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงสุดตามสภาพแสงในแต่ละช่วงเวลา

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงทราบแล้วว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณาก่อนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ดังนั้น การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพควบคู่ไปกับการติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้ระบบโซลาร์เซลล์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ! หมดกังวลเรื่องการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในโรงงาน ให้ GreenYellow เริ่มดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบให้สอดคล้องกับแต่ละธุรกิจ พร้อมลงทุน-ดำเนินการติดตั้ง รวมไปถึงการดูแล บำรุงรักษา ตรวจสอบ แบบครบวงจรให้ฟรีตลอดอายุสัญญา เพื่อให้สามารถใช้งานโซลาร์เซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. รู้ก่อนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป. สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2567 จาก https://oldwww.dede.go.th/ewt_dl_link.php?nid=55175
  2. แผงโซลาร์เซลล์ มีกี่แบบ ควรเลือกอย่างไร?. สืบค้นเมื่อ 16 กันยายน 2567 จาก https://www.baanlaesuan.com/187612/maintenance/electric-system/solar-panel
ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึงหลักล้านง่ายๆ เพียงติดต่อเราวันนี้ Contact Us

บทความโดย

แชร์บทความนี้
Facebook
Twitter
LinkedIn
X
Pinterest
WhatsApp

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

นักธุรกิจถือไอคอนจำลองคาร์บอนเครดิต

คาร์บอนเครดิต กุญแจสำคัญสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดด้วยโซลาร์เซลล์

ท่ามกลางความตื่นตัวเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญขององค์กรและธุรกิจทั่วโลก ซึ่ง “คาร์บอนเครดิต” เป็นหนึ่งในกลไกที่น่าสนใจเพื่อขับเคลื่อนพลวัตทางเศรษฐกิจและสังคมให้เข้าใกล้เป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผนวกเข้ากับการติดตั้ง “โซลาร์เซลล์” แหล่งพลังงานสะอาดที่พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจอย่างยั่งยืน เข้าใจคาร์บอนเครดิตและโอกาสทางธุรกิจ คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) คือ หน่วยวัดการลดหรือการหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (จำนวนคาร์บอนฟุตพรินต์) ในแต่ละปี โดย 1 คาร์บอนเครดิต เท่ากับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1 ตัน (tCO2e) ซึ่งสามารถทำได้จากหลายมาตรการ เช่น

Learn More
Climate Tech เทคโนโลยีด้านภูมิอากาศ สู่การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน

รับมือกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ด้วย Climate Tech

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นหนึ่งในความท้าทายที่โลกกำลังเผชิญ ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อเศรษฐกิจ สุขภาพ และคุณภาพชีวิตของประชากรทั่วโลก ปัจจุบันจึงมีแนวคิดและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองต่อปัญหานี้ โดย Climate Tech กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง Climate Tech สร้างโอกาสในการพัฒนาที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม Climate Tech หรือ Climate Technology คือเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การพัฒนาพลังงานสะอาด สู่การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน นับเป็นส่วนสำคัญของการแก้ไขปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อทั้งสิ่งแวดล้อม

Learn More
ก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมาจากโรงงาน (คาร์บอนฟุตพรินต์)

คาร์บอนฟุตพรินต์ : ความสำคัญและวิธีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ปัจจุบัน “คาร์บอนฟุตพรินต์” (Carbon Footprint) เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่องค์กรและธุรกิจทั่วโลกใช้ประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากรายงานของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน พบว่าในปี 2566 ประเทศไทยมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงถึง 243.6 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี ซึ่ง 71% มาจากภาคพลังงานและการขนส่ง ดังนั้น การเข้าใจความหมาย ประเภท วิธีการคำนวณ และแนวทางการลดคาร์บอนฟุตพรินต์อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้องค์กรของคุณลดการสร้างคาร์บอนฟุตพรินต์ได้อย่างเหมาะสม คาร์บอนฟุตพรินต์คืออะไร ? คาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon

Learn More

Free consultation