กรีน เยลโล่ ระดมเงินทุน 1.1 พันล้านบาท ดำเนิน 92 โครงการโซลาร์เซลล์ เดินหน้าเติบโตก้าวกระโดดในประเทศไทย

GreenYellow Thailand - ADB - Kbank - responsAbility
  • กรีน เยลโล่ ตอกย้ำการเป็นผู้นำการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้งานเอง และส่งเสริมการเติบโตที่รวดเร็วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการลงนามในการระดมเงินทุนร่วมกับพันธมิตรทางการเงินชั้นนำในประเทศไทย  

กรีน เยลโล่ ผู้นำระดับโลกด้านการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ประกาศลงนามการระดมเงินทุนมูลค่าประมาณ 1.1 พันล้านบาท ร่วมกับ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB: Asian Development Bank), ธนาคารกสิกรไทย (Kasikorn Bank) และเรสปอนส์อะบิลิตี้ (rA: responsAbility) องค์กรธุรกิจเพื่อการลงทุน ในการดำเนินโครงการโซลาร์เซลล์ ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้งานเอง (Self-Consumption PV Systems) จำนวน 92 โครงการทั่วประเทศไทย

 

ผสานจุดแข็งขององค์กรนานาชาติร่วมกับทีมงานมากประสบการณ์ในประเทศไทย

การระดมเงินทุนในครั้งนี้เป็นไปเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการโซลาร์เซลล์ ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 92 โครงการ (โซลาร์รูฟท็อป, โซลาร์ฟาร์ม และ โซลาร์ลอยน้ำ) คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 60.3 MWp ซึ่งจะกระจายอยู่ทั่วประเทศไทย พร้อมให้บริการลูกค้าเอกชน 14 รายผ่านสัญญาซื้อขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Private PPA) ระยะเวลาเฉลี่ย 15.5 ปี

หลังจากตกลงทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับบริษัทลูกค้าแล้ว กรีน เยลโล่จะดูแลการลงทุนทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์: โซลูชันครบวงจรนี้ครอบคลุมตลอดอายุสัญญา ตั้งแต่การลงทุน การขอใบอนุญาต และการออกแบบ ไปจนถึงการก่อสร้าง การดำเนินงาน การตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

โซลูชั่น Solar-as-a-Service ช่วยให้ลูกค้าของ กรีน เยลโล่ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปสู่สิ่งแวดล้อมโดยใช้พลังงานสะอาดที่ผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โดยที่ไม่ต้องลงทุน การนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในธุรกิจจะมีส่วนช่วยในการบรรลุเป้าหมาย การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 40% ของรัฐบาลไทยในปี 2573 และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 นอกจากนี้ ไฟฟ้าที่กรีน เยลโล่ ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ จะมีราคาที่ถูกกว่าเทียบกับการไฟฟ้า ซึ่งช่วยให้ลูกค้าลดต้นทุนในการการดำเนินงานได้

ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้งานเองที่มีการแข่งขันสูงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การระดมเงินทุน 1.1 พันล้านบาท กินระยะเวลา 13 ปี ในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมการเติบโตก้าวกระโดดให้กรีน เยลโล่ ในประเทศไทยและภูมิภาค และการร่วมมือกับพันธมิตรด้านการเงินชั้นนำในประเทศไทยในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยเติมเต็มความแข็งแกร่งให้กับกรีน เยลโล่ ได้เป็นอย่างดี

ความไว้วางใจที่ได้รับจากพันธมิตรทางการเงินในประเทศไทย ยิ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงความสามารถของ กรีน เยลโล่ ในการนำเสนอโซลูชั่นการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับลูกค้าทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กรีน เยลโล่ ถือเป็นผู้นำด้านการพัฒนาโครงการระบบการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในภูมิภาคนี้ ด้วยพนักงานมากกว่า 100 คนกระจายอยู่ทั่วสำนักงานในกรุงเทพฯ โฮจิมินห์ซิตี้ ฮานอย และพนมเปญ การลงนามการระดมเงินทุนในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการนำเงินทุนมาเสริมความแข็งแกร่งของ กรีน เยลโล่ ในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP: Independent Power Producer) ด้านพลังงานสะอาดในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นาย อ๊อทแมน ฮัจจิ ผู้ก่อตั้งและประธาน กรีน เยลโล่กล่าวว่า “การได้รับสนับสนุนทางการเงินเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นสิ่งยืนยันให้เห็นถึงความต้องการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เพิ่มมากขึ้น และตอกย้ำภาพความเป็นผู้นำธุรกิจดังกล่าวของ กรีน เยลโล่ อีกด้วย โดยปัจจุบันธุรกิจและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในประเทศไทยมีความต้องการใช้ไฟฟ้ากว่า 70% ของความต้องการทั้งประเทศ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จะเข้ามามีบทบาทสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายลดคาร์บอนในขณะที่ยังคงสามารถรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ อีกทั้งยังทำให้ลูกค้าภาคธุรกิจของเราสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านการใช้พลังงานได้อย่างยั่งยืน กรีน เยลโล่ ขอขอบคุณธนาคารพัฒนาเอเซีย ธนาคารกสิกรไทย และกองทุนเรสปอนส์อะบิลิตี้ ที่ให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการดังกล่าว ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้กรีน เยลโล่ เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาให้กับภูมิภาคนี้”

นาย ทิพากร สายพัฒนา, รองกรรมการผู้จัดการ ของ ธนาคารกสิกรไทยกล่าวว่า “ธนาคารกสิกรไทย ตระหนักถึงความสำคัญของบทบาทการเป็นผู้ให้บริการทางการเงิน และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนทางการเงินสำหรับโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเสมอมา โดยมีการดำเนินงานสอดคล้องกับแผนพลังงานชาติของ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) กระทรวงพลังงาน ในการมุ่งผลักดันประเทศไทยให้ใช้พลังงานสะอาดและลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายในปี 2065”

นาย อองตวน เปรโดร ผู้บริหารด้านการลงทุน ของ กองทุนเรสปอนส์อะบิลิตี้กล่าวว่า “การระดมเงินทุนสนับสนุน กรีน เยลโล่ ถือเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมในพอร์ตโฟลิโอของเราในการสนับสนุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับลูกค้าทั้งในกลุ่มพาณิชย์และกลุ่มอุตสาหกรรมในภูมิภาค ความร่วมมือกับกรีน เยลโล่ ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการส่งเสริมด้านพลังงานหมุนเวียนในเอเชีย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของกิจกรรมการลงทุนของเรา” 

จากความสนใจของคุณ คุณอาจจะสนใจอ่านข่าวเหล่านี้